เกิดขึ้นเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการส่งข่าวสารถึงกันได้อย่างรวด เร็วขึ้น เพราะตอนนั้นถึงแม้โทรศัพท์จะมีการพัฒนามากขึ้น แต่ราคาก็ยังแพงหูฉี่ เพจเจอร์มีหลากรูปแบบ มีทั้งที่รับข้อความอย่างเดียว และรุ่นท็อปขึ้นมาหน่อยก็คือเป็นแบบที่มีปุ่มพิมพ์แล้วส่งได้เลยด้วยตัวไว ร์เลส เพียงแค่โทร.ไปที่ศูนย์บริการ บอกหมายเลขเครื่องผู้รับและบอกข้อความ พนักงานก็จะพิมพ์และส่งไปให้...ถ้าไม่เขินคำพูดตัวเองกับพนักงานซะก่อนนะ
ในยุคหนึ่งถ้ายังจำกันได้(ประมาณปี2530-2540) เราเคยติดต่อสื่อสารกันผ่านเครื่อง เพจเจอร์ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า แพ็กลิงค์ ส่วนในภาษาทางการบอกว่าเป็น วิทยุติดตามตัว(ก็ติดตามตัวจริง บ้างก็ติดตามเข็มขัด ห้อยกับกางเกง กระโปรงแล้วแต่ความถนัด)
แรกเริ่มเดิมที เพจเจอร์ได้รับความนิยมในแวดวงธุรกิจและข้าราชการ เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารในการทำงาน ส่วนนอกเวลางานก็ใช้ติดต่อธุระส่วนตัว
ในยุคนั้น เพจเจอร์ มีบทบาทอย่างมากในวงการวิทยุ โดยการเป็นสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างผู้จัดรายการกับผู้ฟัง เพื่อใช้แจ้งข่าวสาร ขอเพลง เล่นเกมส์ ร่วมเสนอแนะ ฯ
ต่อมา เพจเจอร์ ก็เริ่มได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นมากขึ้น ผู้ผลิตเริ่มมีการออกแบบรูปทรงให้มีความทันสมัยและมีสีสันที่สดใส หลากหลายมากขึ้น ทำให้เพจเจอร์กลางเป็นเครื่องมือสื่อสารแห่งยุคไปโดยปริยาย
หนุ่มๆสาวๆส่วนใหญ่ในตอนนั้นใช้ เพจเจอร์ ในการสานความสัมพันธ์กัน แทนการเขียนจดหมายที่ดูจะชักช้าล้าสมัยไม่ทันเวลา
จะโทรศัพท์หาก็เปลืองเงินแถมบางบ้านมีโทรศัพท์เครื่องเดียวก็ไม่สะดวก จะโทรตู้สาธารณะก็ลำบากแลกเหรียญแถมยืนขาแข็งอีก
ต่างกับเพจเจอร์ที่ ส่งข้อความเร็วและมีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะนอกจากคอลเซ็นเตอร์ก็มี เธอเพียงคนเดียวที่ได้ข้อความ(ถ้าไม่มีใครไปแอบอ่านนะ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น